ลักษณะการใช้งานสายชาร์จและประโยชน์ในการใช้ที่ควรรู้
สายชาร์จ คือ หนึ่งในอุปกรณ์ไอทีหรือ Gadget ที่เป็นตัวสำคัญในการเป็นสื่อกลางระหว่างโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ด้านไอทีต่าง ๆ กับระบบกำลังไฟที่จะเชื่อมต่อกันผ่านสาย ที่เป็นการเพิ่มพลังให้กับเหล่าเทคโนโลยีแบบสมาร์ทไวซ์เหล่านี้ ลักษณะเป็นชิ้นเล็กมีขนาดที่พกพาสะดวก และเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัย เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกคิดค้นเพื่อมาใช้งานในด้านของการอำนวยความสะดวก เรียกได้ว่าแค่อุปกรณ์สายชาร์จเล็ก ๆ นี้ ก็สามารถที่จะเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคใหม่ที่มากยิ่งขึ้น โดยสายชาร์จนี้มันอยู่ด้วยการหลายแบบ มีทั้งแบบใช้งานในการชาร์จโทรศัพท์มือถือ การชาร์จโน๊ตบุ๊ค และอุปกรณ์ไอทีอีกหลายประเภท ซึ่งการใช้งานที่ได้รับความแพร่หลาย คือ สายที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ที่ต้องใช้งานเกือบทุกวัน ทั้งยังต้องมีการพกพาติดตัวไปได้อย่างสะดวกสบาย และสายสำหรับชาร์จมือถือส่วนใหญ่มักจะมีเป็นแบบที่ติดมากับตัวมือถือเมื่อตอนที่ซื้อเครื่องมือ หรือจะเป็นแบบที่ซื้อมาใช้งานร่วมกันแบบแค่เพียงสายเดียวก็สามารถใช้ได้หลายงานการชาร์จ และบางตัวก็ยังเป็นสายเชื่อมต่อเพื่อดึงข้อมูลหรือที่เรียกกันว่าสาย USB ไปในตัวอีกด้วย
การใช้งานสายสำหรับชาร์จในปัจจุบันมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันเริ่มที่จะมีการผลิตออกมาเพื่อให้สามารถที่จะเพิ่มความสะดวกสบายด้วยสายเพียงสายเดียว ทั้งการเป็นที่ชาร์จ เป็นตัวต่อข้อมูล และอาจจะไปชาร์จในเครื่องไอทีอื่น ๆ อย่าง แท็บเบล็ตหรือโน๊ตบุ๊คในรุ่นเล็ก ๆ อีกด้วย การใช้ประโยชน์นั้นก่อนอื่นก็ต้องดูความต้องการของผู้ที่ซื้อใช้ก่อนว่า มีการใช้เทคโนโลยีแบบสมาร์ทดีไวซ์อะไรบ้าง เพราะมีการผลิตที่แบ่งย่อยหัวของสายในการชาร์จตามรุ่นและแบรนด์ของโทรศัพท์มือถือ ลักษณะของหัวชาร์จจึงเปลี่ยนไปตามรุ่นและดีไซน์ หากมีขนาดที่ไม่พอดีกัน ก็อาจจะทำให้รับปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ไม่เต็มที่ ต้องใช้เวลาไปกับการชาร์จที่นานจนเกินไป ทำให้ต้องเสียเวลา อย่างเช่น หัวชาร์จ Iphone 4 กับ 5 ที่จะเป็นกันคนละขนาด ทำให้ตัวชาร์จต้องเริ่มมีการแตกรูปแบบย่อยออกมาให้มากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย และกำลังไฟในการชาร์จที่เหล่าอุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ต้องการ อย่างกระแสไฟที่ใช้สำหรับมือถือสมาร์ทโฟน จะอยู่ที่ช่วงระหว่าง 1A-2.4A โดยที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อมที่จะต้องมีกำลังไฟที่ต่างกัน ความสำคัญในการทราบถึงตัวกระแสไฟฟ้า เพื่อที่ตัวของผู้ใช้งานจะสามารถเลือกสายชาร์จที่จะมารองรับกำลังไฟได้ ไปจนถึงตัวอะแดปเตอร์
กำลังไฟที่ใช้นี้จะมีผลอย่างมากกับทั้งตัวเครื่องและตัวสายสำหรับชาร์จ เพราะถ้ามีการชาร์จกำลังไฟที่น้อยจนเกินไป อย่างเช่น การชาร์จเครื่องแท็บเบล็ตที่มีกำลังไฟ 2.0 A ผ่านทางพอร์ต USB 2.0 ที่มีการให้กำลังไฟเพียง 0.5 A ก็จะทำให้เครื่องเกิดการหน่วง ระบบไฟฟ้าและแบตเตอร์รี่เครื่องภายในเกิดรวน แต่ถ้ามีการใช้กำลังไฟที่สูงมากจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เครื่องร้อนได้ และถ้าสายชาร์จมีขนาดที่เล็ก ความร้อนก็อาจจะทำให้สายกรอบและขาดไฟในที่สุด และนอกจากคุณสมบัติตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็ยังสามารถใช้งานตัวสายชาร์จให้ถูกรสนิยม และตรงกับลักษณะการทำงาน พร้อมไปด้วยความต้องการที่เหมาะสมไปกับไลฟ์สไตล์ อย่างสายที่ชาร์จสำหรับพวก Multi-taskingที่จะเน้นเป็นสายที่หนาและยาว รูปแบบการใช้งานของสายแบบชาร์จนี้เข้าถึงกลุ่มของผู้ใช้ได้อย่างกว้างขวาง ด้วยความยาวที่ 1-5 เมตร สามารถที่จะเอื้อประโยชน์ในการทำงานของที่ค่อนข้างสูง สามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกับการใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย เพราะการใช้งานอุปกรณ์เสริมมือถือเกือบทุกประเภท ทั้งหูฟังและสายในการชาร์จนี้ เริ่มที่จะมีการใช้งานที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น อย่างการนำเอาโทรศัพท์เข้าไปใช้ในห้องน้ำ หรือเล่นมือถือบนเตียงนอน เป็นต้น การชาร์จอุปกรณ์ไม่ได้อยู่เพียงโต๊ะทำงานเท่านั้น แต่จะต้องสามารถที่จะชาร์จมือถือในเวลาใดก็ได้ตามที่ต้องการ ดังนั้น การใช้สายสำหรับชาร์จแบบยาวนี้จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว
ส่วนในสายสำหรับชาร์จที่มีเส้นสั้น มีความกะทัดรัดที่เหมาะกับคนชอบพกพาอะไรที่ง่าย ๆ และสะดวก ไม่มีวิธีการเก็บที่ยุ่งยาก หรือต้องทะนุถนอมมากจนเกินไป สายแบบนี้จะผลิตขึ้นมาเพื่อให้สามารถใช้งานในการพกพาที่สะดวกสบาย สามารถที่จะหยิบใช้ได้แบบง่าย ๆ ถนัดมือ ผู้ที่ใช้งานจะชาร์จไฟทิ้งไว้ในขณะที่สะพายกระเป๋าไปไหนมาไหน ก็ทำได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญคือ สายประเภทนี้จะดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ต้องระวังตัวสายว่าจะไปพันกับข้าวของอะไรในกระเป๋าจนอาจจะทำให้เกิดการหักหรือหงิกงอจนเสียหายได้ และยังมีสายในการชาร์จแบบอึด ที่เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการจะเปลี่ยนสายชาร์จบ่อยครั้ง และพยายามที่จะหาที่ชาร์จคุณภาพดี สามารถที่จะโอนถ่ายข้อมูลได้ดี พร้อมทั้งอายุการใช้งานที่ถือว่านานมากกว่าสายปกติทั่วไป แต่ข้อเสียของสายสำหรับชาร์จแบบอึดนี้มักจะมีปัญหาในเรื่องของข้อต่อหัวปลั๊กเป็นส่วนใหญ่ และบริเวณสายไฟที่มักมีการหักชำรุด เสียหายยาวไปจนถึงไม่สามารถที่จะใช้งานได้ไปเลย คุณภาพในการผลิตสายแบบนี้จึงจะต้องดี ผู้ที่ต้องการจะซื้อสายสำหรับชาร์จในรูปแบบนี้ สามารถที่จะเลือกซื้อในร้านDropshipต้องดูที่สายพลาสติกที่ต้องมีความเหนียวและมีความดีดตัวที่สูง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ
สายชาร์จแบบสายถักที่ห่อหุ้มสายไฟภายในถึง 5 ชั้น มีส่วนหัวของปลีกที่ใช้วัสดุที่ทนทานต่อความร้อนและน้ำหนักของมือผู้ใช้ อย่างเช่น วัสดุประเภทอลูมิเนียมหรืออัลลอย ที่สามารถจะต่ออายุการใช้งานที่นานมากยิ่งขึ้นกว่าสายสายชาร์จทั่วไปอย่างแน่นอน และสายที่ดีก็ต้องไม่มีปัญหาเวลาชาร์จหรือการซิงค์ข้อมูล เมื่อต้องมีการเชื่อมต่อกับ USB Cable เข้ากับตัวคอมพิวเตอร์จะต้องสามารถอ่านข้อมูลและตรวจจับตัวอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ได้ เพราะถ้าไม่สามารถทำได้นั่นก็อาจจะหมายถึงว่าด้านในของพอร์ต mini B หักหรือเกิดการเสียทรงไป และยังมีกรณีที่ขนาดพอร์ต USB ไม่ได้มาตรฐาน มีการใช้วัสดุคุณภาพต่ำจนทำให้กระแสไฟฟ้าเกิดการไหลไม่สะดวกเท่าที่ควร ซึ่งก็อาจจะส่งผลให้เครื่องร้อนจนระบบเกิดความเสียหายหรือมีการทำงานนานจนเกินไป สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องของการเลือกใช้สายเพื่อการชาร์จนี้ คือ ต้องมีความปลอดภัยในการใช้งานสูง ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้มากที่สุด โดยต้องเลือกสายที่มีระบบการป้องกันที่ดี อย่างสายที่มีระบบปรับกระแสไฟฟ้าให้สม่ำเสมอได้ หรือมีระบบตัดไฟเมื่อเครื่องรับกระแสเกินความต้องการ เป็นต้น
นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่อง
กว่าจะได้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตัวโปรดมาครอบครองเพื่อการใช้งานในแต่ละวัน เชื่อว่าหลาย ๆ คนไม่เพียงทำประกันเครื่องและสวมเคสอุปกรณ์เสริมมือถือกันกระแทกให้กับเจ้ามือถือสมาร์ทโฟนคู่ใจเท่านั้น แต่การเลือกติดฟิล์มกระจกกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอยังเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลรักษาเครื่องโทรศัพท์มือถือให้สวยงามเหมือนใหม่ตลอดเวลา ที่สำคัญ ช่วยป้องกันการกระแทกระหว่างการใช้งานหรือกรณีที่สมาร์ทโฟนเครื่องโปรดพลั้งพลาดตกลงพื้นได้เป็นอย่างดีด แต่ฟิล์มกันรอยโทรศัพท์มือถือก็มีให้เลือกหลายแบบเพื่อการใช้งานต่างวัตถุประสงค์ เช่น
· ฟิล์มกันรอยหน้าจอโทรศัพท์แบบใส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคมชัดของภาพ: ไม่เพียงฟิล์มกันรอยแบบใสจะหาซื้อได้ง่ายและไม่ทำให้ภาพที่แสดงบนหน้าจอเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่สีสันและความใสของฟิล์มยังให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ติดฟิล์มเลยด้วย แต่ขีดจำกัดของฟิล์มใส ๆ แบบนี้ก็คือรอยนิ้วมือที่เห็นร่องรอยการใช้งานชัด ๆ และไม่สามารถกันกระแทกหรือกันแตกได้หากมือถือเครื่องโปรดหล่นลงพื้น
· ฟิล์มกันรอยหน้าจอโทรศัพท์แบบด้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถนอมสายตาระหว่างการใช้งานโทรศัพท์:ได้รับความนิยมไม่น้อยเหมือนกันสำหรับฟิล์มกันรอยแบบด้านที่ไม่เพียงมองไม่เห็นรอยนิ้วมือเท่านั้น แต่ยังช่วยลดแสงสะท้อนจากรอบ ๆ ด้าน ระหว่างการใช้งานอีกด้วย จึงเป็นการถนอมสายตาได้เป็นอย่างดี แต่ภาพสีอาจจะไม่สดใสเท่าเดิมและไม่สามารถป้องกันการกระแทกได้
· ฟิล์มกระจกกันกระแทก เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาองค์รักษ์พิทักษ์หน้าจอโทรศัพท์จากการตกหล่นแตกกระจาย:ปัญหาปวดหัวและปวดใจของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตที่ต้องเจอกับอาการหน้าจอแตกเพราะกระแทกกับพื้น ทำให้ฟิล์มกันรอยแบบกระจกได้รับการคิดค้นและผ่านการทดสอบแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นมีดกรีด, ทำหล่นลงพื้นปูนหรือเอาค้อนทุบ หน้าจอที่ติดฟิล์มกันกระแทกแบบนี้ก็จะไม่เป็นรอยแน่นอน จึงเหมาะในการเลือกมาเป็นองครักษ์พิทักษ์เครื่องสมาร์ทโฟนตัวโปรดที่สุด
ทั้งนี้ ในบรรดาอุปกรณ์เสริมมือถือที่วางขายผ่านระบบ Dropship ฟิล์มกันรอยหน้าจอโทรศัพท์แต่ละแบบ ต่างก็มีข้อดีและขีดจำกัดในการใช้งานต่างกันออกไป แต่ถ้ามองในเรื่องการปกป้องความเสียหายของตัวเครื่องสมาร์ทโฟนแล้วก็ต้องยอมรับว่าฟิล์มกระจกสามารถกันรอยขีดข่วนและกันการกระแทกได้ดีที่สุด นอกจากนี้ จากประสบการณ์ของผู้ใช้งานฟิล์มกันกระแทกแบบกระจกหลาย ๆ คน ก็เป็นเหมือนเครื่องยืนยันความคุ้มค่า ในการติดฟิล์มกันกระแทกให้กับสมาร์ทโฟนคู่ใจของคุณที่ไม่เพียงช่วยดูดซับแรงกระแทกเวลาตกลงพื้นเท่านั้น แต่ยังช่วยกระจายแรงกระแทกบนหน้าจอได้จริง จึงสามารถป้องกันความเสียหายของหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพจนต้องบอกต่อ
· ประสบการณ์ฟิล์มกระจกกันกระแทก ไอโฟน 5 เอส ตกจากสิบล้อ หน้าจอรอดปาฏิหารย์: หนึ่งในประสบการณ์ที่ได้รับการบอกต่อจากผู้ที่ติดฟิล์มกันกระแทก แบบกระจกบนหน้าจอ iPhone 5S โดยเจ้าตัวออกตัวว่าเป็นคนซุ่มซ่ามบวกกับงานที่ทำต้องอยู่คลุกคลีกับรถสิบล้อขนาดใหญ่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง เช่น
o อุบัติเหตุในครั้งแรก: เกิดจากการที่เจ้าตัวนำไอโฟนใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อและก้ม ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องโปรดหลุดลื่นออกมาจากกระเป๋าและตกลงพื้นทันที ผลคือเครื่องไอโฟนแตกเสียหาย เกือบหมดสภาพมีแต่หน้าจอที่ติดฟิล์มกันกระแทกแบบกระจกไว้จึงไม่เป็นอะไรเลย
o อุบัติเหตุไม่คาดคิดครั้งที่ 2: เกิดจากเครื่องไอโฟนตกจากกระเป๋าเสื้ออีกเหมือนเคย แต่รอบนี้กระเด็นไปโดนขอบปูนส่วนที่เป็นมุมเหลี่ยมพอดิบพอดี ผลคือเครื่องไอโฟนรูปงามแตกละเอียด แต่หน้าจอที่ติดฟิล์มกระจกยังใสกิ๊กเหมือนเดิม
o อุบัติเหตุครั้งใหญ่รอบที่ 3: คราวนี้หนักสุด ๆ เพราะพลาดทำไอโฟนถลาลมออกจากกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง แต่ที่ความสูงจากเบาะนั่งบนรถสิบล้อขณะเอื้อมตัวไปปิดประตู ซึ่งเข้าล็อคพอดีกับจังหวะปิดประตูซะด้วย ตอนแรกคิดว่าไม่รอดแน่ ๆ เจออัดแบนแบบปิดประตูเต็มแรงขนาดนี้ เห็นเครื่องไอโฟนงอก็ปวดใจหนักมาก แต่พอพลิกหน้าจอขึ้นมากลับพบว่าฟิล์มกระจกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในขณะที่หน้าจอกลับรอดปาฏิหารย์กับสภาพที่ยังเหมือนใหม่อยู่เลย ทำให้จากเหตุการณ์ในวันนั้น เจ้าตัวยังสามารถใช้งานไอโฟน 5S เครื่องเดิมแบบไร้ปัญหาเพราะภายในตัวเครื่องยังสมบูรณ์มาก ๆ นี่คงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าฟิล์มกันกระแทกแบบกระจกช่วยกระจายน้ำหนัก ขณะตกลงพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและกันแตกได้จริง ๆ
· ประสบการณ์ฟิล์มกระจกนิรภัย ช่วยหน้าจอสมาร์ทโฟนโน๊ต 3 ไม่ร้าว ไม่เป็นรอย ใสกิ๊งเหมือนใหม่: อีกหนึ่งประสบการณ์จากผู้ใช้งานฟิล์มกันกระแทกแบบกระจกที่บอกต่อว่าเครื่องสมาร์ทโฟนโน๊ต 3 ของเขา รอดจากการแตกกระจายมาได้ 2 ครั้ง เพราะติดฟิล์มกระจก โดยอุบัติเหตุครั้งแรกเกิดขึ้นตอนที่เจ้าตัวกำลังวิ่งขึ้นสะพานลอย และในจังหวะนั้นได้ยินเสียงเรียกเข้าก็เลยล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อกดรับสาย แต่กลับพลาดสมาร์ทโฟนโน๊ต 3 หลุดมือลอยหล่นลงพื้นตรงหน้า เพราะเครื่องเพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าตัวเครื่องมีความเสียหายที่ด้านบนอย่างเดียว ในขณะที่ภายในไม่เป็นรอยใด ๆ เลย แค่เปลี่ยนแผ่นฟิล์มกระจกใหม่ก็สามารถใช้งานต่อได้แล้ว จากนั้นไม่นานอุบัติเหตุเพราะความไม่ระวังก็เกิดขึ้นอีกเมื่อไปทานข้าวที่ร้านอาหาร แต่โต๊ะเปียกและมื้อก็เปื้อน เจ้าตัวจึงได้นำสมาร์ทโฟนโน๊ต 3 วางไว้บนตักก่อนเพื่อจะได้เช็ดมือให้แห้ง แต่จังหวะนั้นได้ยินคนเรียกก็เลยลุกขึ้นแบบลืมตัว เจ้าโน๊ต 3 เครื่องโปรดก็เลยกระเด็นกระดอนไปหลายเมตร นึกว่าไม่รอดแน่ ๆ โน๊ต 3 ของเรา แต่เมื่อไปเก็บมาดูกลับพบว่าขอบข้างโทรศัพท์เป็นรอย, ฟิล์มกันกระแทกแบบกระจกเป็นรอยร้าว แต่หน้าจอยังเหมือนใหม่ ไม่เป็นรอย ใสกิ๊งเหมือนเดิมเลยได้ยิ้มแก้มปริอีกครั้ง ทั้งนี้ การติดฟิล์มแบบนี้ไม่เพียงปกป้องหน้าจอมือถือจากการกระแทกได้ดีเท่านั้น แต่ยังติดง่าย ติดเองก็ได้ หรือถ้าติดแล้วไม่พอใจจะแกะแล้วติดเองใหม่ก็ได้ คุ้มจริง ๆ
· ประสบการณ์ฟิล์มกันแตกแบบกระจก HTC One mini ตกพื้น ตกน้ำ ตกหล่นกี่ครั้งหน้าจอก็ยังสภาพใหม่เหมือนเดิม: อีกหนึ่งประสบการณ์ตรงของผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ HTC รุ่น One Mini ที่ประวัติการใช้งานเครื่องสมบุกสมบันพอตัวเลยทีเดียว ในระยะ 1 ปี ของการใช้งานเครื่องรุ่นนี้ ไม่มีเคสหรืออุปกรณ์เสริมมือถือใด ๆ นอกจากฟิล์มกระจกอย่างเดียวเท่านั้น โดยผู้ใช้งานเคยพลาดทำมือถือ HTC ตกจากที่สูงหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ทำเครื่องหล่นลงจากชั้น 2 หรือที่ระดับความสูงประมาณ 1.7 เมตร เพราะลืมไปว่าใส่โทรศัพท์ไว้ในกางเกงแต่เผลอนำกางเกงไปตากกับราวบันไดหรือในครั้งที่ 2 ก็ทำเครื่องสมาร์ทโฟนหล่นจากหน้ารถ off road ที่ระดับความสูงราว ๆ 1.5 เมตร ซึ่งในขณะนั้นมีสายเรียกเข้าทำให้เครื่องสั่นและลื่นไหลลงพื้นกับตา ถัดมาก็ยังมีอุบัติเหตุหล่น ๆ ตก ๆ อีกหลายรอบ แม้กระทั่งเครื่องสมาร์ทโฟนคู่ใจหล่นลงน้ำและลงไปนอนแช่คลายร้อนกว่า 20 วินาทีก็มี แต่ไม่ว่าจะตกหล่นสักกี่ครั้ง ผลก็คือเครื่องมีบุบตามมุมบ้าง, เป็นรอยถลอกรอบทั้งเครื่องแบบหนุ่มมากประสบการณ์ชีวิตและมีรอยร้าวตามขอบพลาสติกให้เห็น แต่หน้าจอกลับไม่มีรอยสะกิดใด ๆ ยังคงสามารถใช้งานเครื่องได้ตามปกติทั้งรับสายเรียกเข้าหรือโทรออก
เพราะเรื่องไม่คาดคิดและอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แม้จะระมัดระวังการใช้งานแล้วก็ตาม แต่ความเสี่ยงที่เครื่องมือถือสมาร์ทโฟนจะพลัดตกก็สามารถเกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ สถานการณ์ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนก็คือ การเลือกติดฟิล์มกระจกเพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างการใช้งานในแต่ละวัน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกแบบฟิล์มกันกระแทกและสั่งซื้อออนไลน์ได้จากตัวแทนจำหน่ายในระบบ Dropship ซึ่งจะเป็นการรับสินค้าโดยตรงมาจากผู้ผลิต จึงได้สินค้าที่มีคุณภาพดีและที่สำคัญราคาถูกกว่าซื้อตามร้านด้านนอกที่มีบวกค่าเช่าที่และต้องไปเดินหาซื้อให้ปวดขาอีกด้วยจริงไหม
อ้างอิงข้อมูลประสบการณ์จาก http://pantip.com/topic/33359345
หน้าที่เข้าชม | 40,247 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 31,345 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 ก.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ส.ค. 2568 |